ทำฟันเด็ก หรือ ทันตกรรมสำหรับเด็กเฉพาะทาง แพทย์จะต้องมีความชำนาญ มีจิตวิทยาในการรักษา และสามารถทำให้เด็กมีทัศนคติในการทำฟันที่ดี ด้วยเด็กนั้นมีระบบฟันที่ยังไม่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาที่มากเป็นพิเศษกว่าผู้ใหญ่ บริการทันตกรรมสำหรับเด็กโดยทันตแพทย์เฉพาะทางเด็กของคลินิกทันตกรรมเด็กวิภาวดี จึงเน้นและให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกเพทย์ที่คอยให้การดูแลรักษาฟันลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ทุกคน นอกจากนี้ทางคลินิกทันตกรรมเอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์ของเรายังมีมุมของเล่นเด็กที่หลากหลาย เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้สึกผ่อนคลายทั้งก่อนและหลังพบคุณหมอฟันเด็ก ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุด สำหรับลูกค้าทุกท่าน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกมาทำฟันเด็กตั้งแต่ยังเล็ก หรือยังไม่มีอาการร้ายแรง ไม่เพียงเป็นการช่วยให้ลูกน้อยของคุณไม่กลัวการทำฟันเด็ก แต่ยังช่วยให้เด็กมีทัศนคติที่ดีในการไปหาหมอฟัน ซึ่งเป็นการปลูกฝังสุขนิสัยที่ดีตั้งแต่เด็ก โดยแพทย์เฉพาะทางจะทำการดูแลรักษาในห้องเฉพาะสำหรับเด็ก ที่มีบรรยากาศเหมาะสมกับเด็กโดยเฉพาะ เช่น มีตุ๊กตาน่ารัก เป็นห้องที่มีสีสันสดใส เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความกลัวหรือวิตกกังวล
ทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก จะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กไปหาหมอเมื่อฟันของลูกเริ่มขึ้นตั้งแต่ซี่แรก หรือประมาณ 6 เดือน เพื่อทำการตรวจฟัน ทำความสะอาดฟันในเบื้องต้น พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลฟัน การทำความสะอาดที่ถูกต้อง การใช้ชนิดของยาสีฟันและปริมาณของยาสีฟันที่เหมาะสม หรือในเด็กโตที่พร้อมให้ความร่วมมือ คุณหมออาจดูแลเคลือบฟลูออไรด์ให้ฟันแข็งแรง
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กฟันผุ และเกิดฝ้าขาว เมื่อเด็กอายุประมาณ 4 เดือน ผู้ปกครองควรเริ่มดูแลทำความสะอาดฟันเด็กด้วยการ เช็ดช่องปาก และหลังจากนั้นเมื่อฟันซี่แรกเริ่มขึ้น ผู้ปกครองจะต้องทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันเด็กด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ทุกวัน นอกจากนี้ในเด็กที่กินนมขวด ผู้ปกครองควรเลือกเป็นนมจืด และพยายามให้เลิกดูดนมจากขวดก่อนอายุ 18 เดือน และไม่ควรให้เด็กกิน น้ำผึ้ง น้ำหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีน้ำตาลมากเกินควร รวมทั้งควรตรวจเช็คสุขภาพฟันเด็กอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจฟันเด็ก หรือทันตกรรมสำหรับเด็ก (Pedodontics) เป็นการทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีการปรึกษา ดูแลรักษา ป้องกันปัญหา ตรวจสุขภาพช่องปาก ไปจนถึงพัฒนาการและแนวโน้มการเจริญเติบโตของฟันของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 12 ปี ปูพื้นฐานให้เด็กเริ่มรู้จักการดูแลรักษาฟัน กระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก รวมถึงประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคต เช่น โรคฟันผุ โรคเหงือก
ผู้ปกครองรับคำแนะนำจากทันตแพทย์เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของเด็กสำหรับผู้ปกครอง เช่น การทำความสะอาดฟัน, การเลือกใช้ยาสีฟันที่เหมาะสม, การใช้ไหมขัดฟัน, พฤติกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ เป็นต้น เพราะฟันน้ำนมเป็นสิ่งที่ควรดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นฐานสร้างความแข็งแรงให้กับฟันแท้ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
การพาเด็กมาหาทันตแพทย์ช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กในการเข้ามารับการรักษาด้านทันตกรรม โดยทันตแพทย์จะค่อยๆ ทำให้เด็กคุ้นชินกับการทำฟัน แนะนำให้รู้จักกับเครื่องมือในการทำฟัน และผูกมิตรกับทันตแพทย์ สร้างประสบการณ์ในทางบวกให้กับเด็ก โดยไม่ให้เด็กรู้สึกกลัวการทำฟัน
การขูดหินปูน (Dental Scaling) เป็นการให้บริการทางทันตกรรมเด็ก ด้วยวิธีการทำความสะอาดฟันโดยการขจัดคราบหินปูที่เกาะอยู่บนฟันและซอกฟันให้หลุดออกไป เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหงือกและปัญหาฟันที่เกิดขึ้นจากคราบหินปูนเกาะตัวแน่น นอกจากนี้การขูดหินปูนยังช่วยทำให้ฟันดูสะอาดแข็งแรง และลดการเกิดกลิ่นปากได้อีกด้วย
การเคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride treatments) โดย หมอฟันเด็กจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน และยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี ช่วยยับยั้งแบคทีเรียเพื่อไม่ให้สร้างกรดขึ้นมาเพื่อทำลายเนื้อฟันที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุ โดยทันตแพทย์จะทำการใช้ฟลูออไรด์เจลความเข้มข้นสูงมาเคลือบไว้บนผิวฟัน และเนื่องจากเด็กมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคฟันผุ ผู้ปกครองจึงควรพาเด็กเข้ารับการเคลือบฟลูออไรด์อยู่สม่ำเสมอพร้อมกับการดูแลช่องปากด้วยการแปรงฟันและใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ด้วย
การเคลือบหลุมร่องฟัน (Dental Sealant) เป็นการนำวัสดุมาเคลือบฟันเพื่อป้องกันแบคทีเรียฝังลึกที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ มักนิยมเคลือบที่บริเวณฟันกรามด้านบนหรือบริเวณร่องฟันที่ทำความสะอาดได้ยาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่เด็กอาจยังทำความสะอาดฟันได้ไม่มากพอ การเคลือบหลุมฟันก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการแปรงฟัน และยังป้องกันไม่ให้เศษอาหารเข้าไปติดตามร่องฟันลึกด้วย โดยฟันกรามของเด็กจะเริ่มงอกเมื่ออายุ 6 – 12 ปี เป็นช่วงวัยที่เหมาะสมในการพาเด็กไปเคลือบหลุมร่องฟัน
การอุดฟันเด็ก (Tooth Filling) โดยหมอทำฟันเด็กเป็นการรักษาอาการฟันด้วยการใช้วัสดุทดแทนเนื้อฟันของเด็กที่ขาดหายไปด้วยสาเหตุของอาการฟันผุกร่อน ฟันสึก หรือฟันแตก จนกลายเป็นรู ร่องลึก ให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมและป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุอีกครั้ง เนื่องจากฟันน้ำนมของเด็กมีชั้นเคลือบฟันน้อยกว่าฟันแท้ จึงมีโอกาสเกิดการผุกร่อนได้ง่ายกว่า
การรักษารากฟันน้ำนม (Pediatric Root Canal Treatment) เป็นการรักษารากฟันของซี่ที่มีอาการผุลึกถึงโพรงประสาท เพื่อรักษาฟันน้ำนมซี่นั้นไว้ไม่ให้หลุดออกไป จนกว่าฟันแท้จะขึ้นมา หรือมีอาการผุรุนแรงจนต้องถอนฟันก่อนเวลาอันควร ซึ่งการที่รักษาฟันน้ำนมไว้นั้น จะช่วยให้ฟันแท้ที่จะขึ้นมาแทนที่เรียงเป็นระเบียบตามธรรมชาติ ไม่ผิดปกติ ไม่เกซ้อน และช่วยกำจัดอาการปวดฟันได้ด้วย
การครอบฟันในเด็ก (Pediatric crown) คือ การบูรณะฟันน้ำนมที่ผุมากจนไม่สามารถรักษาด้วยการอุดฟันน้ำนมได้ แต่ไม่ต้องการถอนฟันน้ำนมออก ต้องการให้ฟันน้ำนมกลับมาใช้งานได้ปกติ ซึ่งจะอยู่ติดกับฟันซี่นั้นไปจนหมดอายุขัยและหลุดไปพร้อมกับฟัน ทั้งนี้การครอบฟันยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับรากฟัน ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทฟันอีกด้วย
เครื่องมือกันฟันล้ม (Space Maintainer) ทำหน้าที่ในการรักษาระยะห่างระหว่างฟันเอาไว้ไม่ให้ลดลงหรือหายไป เพื่อเว้นช่องว่างไว้ให้ฟันแท้ขึ้นได้ตามธรรมชาติ และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ป้องกันปัญหาฟันเกหรือฟันขึ้นผิดที่ได้ เพราะปัญหาฟันในเด็กมักมีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด จึงต้องสวมใส่เครื่องมือป้องกันฟันล้มไว้ มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท แบบถอดได้และแบบติดแน่น
การจัดฟันในเด็ก (Orthodontic Treatment) เป็นการแก้ไขปัญหารูปร่างฟัน จัดระเบียบของฟัน และขากรรไกรที่ผิดปกติให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เนื่องจากเด็กจะเกี่ยวเนื่องกับปัญหาฟันอยู่ตลอด เช่น ฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างฟัน ฟันผุหรือฟันล้ม ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก ได้แก่ การรับประทานอาหาร การพูดการสนทนา หรือแม้กระทั่งการทำความสะอาดช่องปากถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไขก็อาจส่งผลเสียกระทบถึงฟันแท้ที่จะงอกในอนาคต
การถอนฟัน (Teeth Extraction) เป็นวิธีการสุดท้ายที่ทันตแพทย์จะนำมาพิจารณาในการรักษาสุขภาพช่องปาก เมื่อไม่สามารถใช้วิธีการอื่นใดในการรักษาฟันได้แล้ว โดยทันตแพทย์จะพิจารณาว่าฟันน้ำนมซี่นั้นยังเก็บไว้ได้หรือไม่ มีอาการรุนแรงในระดับใด เช่น ในกรณีที่ฟันผุไปจนถึงโพรงประสาทไม่สามารถรักษารากฟันได้ หรือในกรณีที่ฟันแท้งอกแต่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดออกไป ทันตแพทย์ก็จะทำการถอนฟันซี่นั้น อย่างไรก็ตามทันตแพทย์จะแนะนำให้เด็กเรียนรู้การดูแลรักษาฟันเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันและประคับประคองอาการของฟันเพื่อให้การถอนฟันเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา
สำหรับฟลูออไรด์ที่ใช้ในทางทันตกรรมนั้น มีปริมาณที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยอนุญาตให้ใส่ได้ไม่เกิน 1500 ppm เพื่อช่วยปกป้องและลดโอกาสที่จะเกิดฟันผุ ถึงแม้เด็กจะมีการกลืนบ้างในระหว่างการรักษา แต่ระดับความเข้มข้นและปริมาณที่ใช้ถือว่ามีความปลอดภัย และยาสีฟันที่เด็กใช้นั้นควรจะเป็นยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อช่วยลดการเกิดฟันผุ https://www.fda.moph.go.th/sites/Cosmetic/Shared%20Documents/Laws/17%20นำเข้าเฉพาะครั้ง/คำชี้แจง%20สารฟลูออไรด%20และนำเข้าเฉพาะครั้ง.pdf
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคฟันผุนั้น มีสาเหตุมาจากตัวเด็กเอง และสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจาก ฟัน น้ำลาย อาหาร พฤติกรรม อายุ พันธุกรรม ประเพณีหรือสังคม รวมทั้งโภชนาการของมารดา ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการดูแลรักษาความสะอาดฟันของเด็ก และเมื่อเด็กมีสุขภาพฟันที่ไม่แข็งแรง ช่องปากเสียสมดุลจนเกิดเชื้อแบคทีเรียก็จะทำให้เด็กเป็นโรคฟันผุนั่นเอง
เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยของท่านปลอดภัย คลินิกทันตกรรมสำหรับทำฟันเด็กจะต้องมีการทำความสะอาด ดำเนินการฆ่าเชื้อโรค และการป้องกันการติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการดังต่อไปนี้ ไม่ใช้ด้ามกรอฟันซ้ำ โดยจะต้องมีการเปลี่ยนและอบฆ่าเชื้อใหม่ในทุกเคส เครื่องมือทั้งหมดจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน มีระบบฆ่าเชื้อในอากาศด้วย UV และระบบระบายอากาศ เพื่อไม่ให้เชื้อโรควนเวียนในห้อง ทันตแพทย์ บุคลากร และผู้ให้บริการทุกท่าน ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดการบริการ ลดความแออัดของผู้เข้ารับการบริการ ด้วยระบบนัดหมาย การตรวจคัดกรองผู้เข้ามารับบริการทุกท่านตามมาตรฐาน ทุกพื้นผิวที่ถูกสัมผัสต้องมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพสูง
เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะสร้างคลินิกที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ให้การรักษาที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางครบทั้ง 8 สาขา ด้วยความใส่ใจและประสบการณ์การดูแลที่ดีที่สุดจากเรา ทีมทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทำฟันเด็กเป็นบริการทันตกรรมโดยทันตแพทย์เฉพาะทางเด็กซึ่งแพทย์จะมีความชำนาญ มีจิตวิทยาในการรักษา และสามารถทำให้เด็กมีทัศนคติในการทำฟันที่ดี
ตามปกติคุณหมอเฉพาะทางเด็กจะแนะนำให้เริ่มไปพบคุณหมอฟันตั้งแต่ฟันซี่แรกเริ่มขึ้น ซึ่งจะประมาณช่วง 6 เดือนถึง 1 ขวบ
ส่วนมากคุณหมอเด็กจะรักษาแบบง่ายๆ เช่น ตรวจฟัน สอนการแปรงฟัน หรืออาจจะขัดฟัน เคลือบฟลูออไรด์ โดยจะพยายามไม่รักษาอะไรที่ยากๆ เช่น ถอนฟัน หรือ อุดฟัน เพื่อให้เด็กไม่กลัวและมีทัศนคติที่ดีในการทำฟัน
หมอฟันเด็ก หรือทันตแพทย์เฉพาะทางเด็ก คือหมอที่ศึกษาในการรักษาเด็กโดยเฉพาะ จะมีความชำนาญและมีจิตวิทยาในการรักษาเด็ก ทำให้เด็กมีทัศนคติที่ดีในการทำฟัน
สำหรับท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน สามารถทรปรึกษาก่อนได้ที่ 091-441-6663
เอเดลไวซ์ คลินิกทันตกรรมวิภาวดี เรายินดีให้คำแนะนำทุกท่านเป็นอย่างดี บริการตรวจรักษา พร้อมให้คำแนะนำ การวางแผนเพื่อการรักษา สุขภาพเหงือกและฟัน โดยอาจารย์ทันตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ