รากเทียม เป็นการทดแทนฟันด้วยวิธีการฝังรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกรภายใต้เหงือก เพื่อช่วยในการทดแทนรากฟันแท้ที่สูญเสียไป และเป็นหนึ่งในวิธีการใส่ฟันฟันที่ดีที่สุด ซึ่งการใส่ฟันด้วยรากฟันเทียมสามารถทำได้โดยไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง เมื่อรากเทียมเกาะติดแน่นกับกระดูกแล้ว ทันตแพทย์จะทำครอบฟันต่อขึ้นมาจากราก ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการใส่ฟันที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติที่สุด
รากเทียม หรือรากฟันเทียม คือวัสดุที่ทำจากโลหะไททาเนียม ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับรากฟันแท้ และสามารถเข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี โดยการทำฟันเทียมนั้นจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือแบบติดแน่นและแบบถอดได้ ซึ่งทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษาด้วยการใช้เอ็กซเรย์ 3 มิติ และทำการผ่าตัดเพื่อให้รากฟันนั้นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แล้วจึงทำครอบฟันหรือฟันปลอมมายึดติดกับราก ข้อมูลการออกแบบและทดสอบรากฟันเทียมวัสดุไทเทเนียม โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนื่องจากการสูญเสียฟันนั้นส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของการบดเคี้ยวอาหารในช่องปาก การพูด การออกเสียง ในด้านของความสวยงาม และการดำเนินชีวิตในสังคม ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการทำรากเทียมนี้จะสามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของการทดแทนฟันที่หายไปได้ โดยทันตแพทย์จะพิจารณาจากจำนวนซี่ฟันที่หายไป เพื่อทำการวางแผนรักษาตามความเหมาะสม
สำหรับข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้ นอกจากการช่วยรักษาฟันแล้ว ยังเป็นการรักษาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ฟันเทียมที่ใช้งานมีความเป็นธรรมชาติคล้ายกับฟันแท้มาก จึงช่วยให้สามารถรับประทานอาหารหรือบดเคี้ยวได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันในเรื่องของ ฟันล้ม และฟันคู่สบยื่นยาว ซึ่งเป็นผลกระทบที่ตามมาจากการสูญเสียฟัน โดยผู้ที่ได้รับบริการใส่รากฟันเทียมส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจ มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพช่องปากที่ดีมากยิ่งขึ้น บทความวิจัยความพึงพอใจและคุณภาพชีวิต โดย วารสารทันตาภิบาล
ในอดีตวิธีการรักษาฟันด้วยการทำรากเทียม เคยเป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายในการทำที่ราคาสูง และไม่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนทั่วไป แต่ด้วยในปัจจุบันนี้ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้การรักษาฟันด้วยวิธีการนี้มีราคาค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลมากขึ้น และมีความปลอดภัย จึงเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เอเดลไวซ์ เดนทัลเฮ้าส์ เราเน้นการบริการและการรักษาอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทำการรักษาตามมาตรฐานที่เหมาะสมในแต่ละรายอย่างมีคุณภาพ และที่สำคัญคือ ไม่รักษาเกินกว่าที่ควรต้องเป็น ค่าใช้จ่ายจึงไม่สูงเกินกว่าที่ควร โดยการให้บริการทางด้านทันตกรรมรากฟันเทียม เป็นอีกทางเลือกในการใส่ฟันทดแทนฟันธรรมชาติ ซึ่งมีการวางแผนโดยการเอ๊กซเรย์ 3 มิติเพื่อความแม่นยำและความปลอดภัยมากที่สุด และสามารถช่วยในการใส่ฟันแบบต่างๆ ได้แก่
การเตรียมตัวสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่สำหรับคนไข้ที่มีโรคประจำตัว และมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ควรที่จะแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนที่จะเข้ารับการรักษาด้วยรากเทียม เมื่อทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจอย่างละเอียดแล้วและยืนยันแล้วว่าสามารถทำได้ปลูกรากเทียมได้ ทันตแพทย์จะทำการเอ๊กซเรย์ 3 มิติก่อน (CT Scan) บริเวณที่จะทำการผ่าตัดปลูกรากฟันเทียม เพื่อความแม่นยำในการรักษาและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำรากเทียมทำมาจากไททาเนียมซึ่งจะมีความคงทนมาก อายุการใช้งานจึงจะอยู่ที่การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยเอง รากเทียมไม่ผุแบบฟันธรรมชาติแต่อาจเกิดโรคเหงือกอักเสบได้หากดูแลช่องปากได้ไม่ดี การดูแลรักษารากเทียมก็เหมือนการดูแลรักษาฟันตามธรรมชาติ คือ การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน และได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ หากผู้ป่วยสามารถดูแลช่องปากได้ดีรากเทียมก็จะสามารถอยู่ได้ไปตลอดชีวิต
ก่อนการรักษาฟันด้วยวิธีรากเทียม ควรมีการเอ๊กซเรย์ 3 มิติก่อน (CT Scan) จึงจะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะจะสามารถเห็นรูปร่างของกระดูกฟันได้อย่างแม่นยำ และลดโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนได้
ถ้ามีการวางแผนการรักษาที่ดี ช่วยให้การทำรากเทียมมีความเจ็บหลังทำ เท่ากับการถอนฟันธรรมดาซี่หนึ่งเท่านั้น
สำหรับระยะเวลาในการทำใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
การใช้รากฟันเทียม สามารถช่วยทดแทนฟันที่หายไปจำนวน 1-2 ซี่ และสามารถเลือกวิธีการใช้สะพานฟันได้ โดยที่ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง
กรณีที่มีการสูญเสียฟันเป็นจำนวนมาก ทันตแพทย์อาจใช้รากฟันเทียมจำนวนน้อยกว่าฟันที่หายไป และออกแบบเป็นสะพานฟัน เพื่อลดจำนวนรากที่จะใช้งาน และราคาไม่สูงจนเกินไป
สำหรับท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน สามารถปรึกษาก่อนได้ที่ 091-441-6663
เอเดลไวซ์ คลินิกทันตกรรมวิภาวดี เรายินดีให้คำแนะนำทุกท่านเป็นอย่างดี บริการตรวจรักษา พร้อมให้คำแนะนำ การวางแผนเพื่อการรักษา สุขภาพเหงือกและฟัน โดยอาจารย์ทันตแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ